บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก เมษายน, 2018

ค่าของตัวโน๊ตสากล

รูปภาพ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับอัตราส่วนของโน๊ตสากล ตัวโน้ต ตัวโน้ตเป็นเครื่องหมายทางดนตรีชนิดหนึ่งที่ใช้บันทึกแทนเสียงร้อง หรือเสียงดนตรี มีชื่อเรียก และวิธีการเขียนแต่ละลักษณะ แตกต่างกันไป ซึ่งในเบื้องต้นจะเรียนรู้เพียง 5 ลักษณะดังนี้ ตัวกลม ตัวขาว ตัวดำ ตัวเขบ็ต 1 ชั้น ตัวเขบ็ต 2 ชั้น ค่าของตัวโน้ตของแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน แต่โน้ตแต่ละตัวจะมีความสัมพันธ์กันดังนี้ โน้ตตัวกลม มีค่ามากที่สุด โน้ตตัวขาว มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวกลม โน้ตตัวดำ มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวขาว โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวดำ โน้ตตัวเขบ็ต 2 ชั้น มีค่าเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้น ดังนั้นถ้าสมมุติให้ตัวกลมมีค่า 4 จังหวะ โน้ตตัวขาวจะมีค่า 2 จังหวะ เพราะเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวกลม โน้ตตัวดำจะมีค่า 1 จังหวะ เพราะเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวขาว โน้ตตัวเขบ็ต 1 ชั้นจะมีค่า 1/2 จังหวะ เพราะเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวดำ โน้ตตัวเขบ็ต 2 ชั้นจะมีค่า 1/4 จังหวะเพราะเป็นครึ่งหนึ่งของโน้ตตัวเขบ็ต1 ชั้น แผนภูมิการกระจายค่าตัวโน้ต   แหล่งอ้างอิง http://sopononline.net/index.php/2013...

กลองชุด

รูปภาพ
กลองชุด              กลองชุดเป็นชื่อเรียกภาษาไทย  มีความหมายถึง  กลองหลายใบ ภาษาอังกฤษ ใช้ Team Drum  หรือ Jass Drum  ทั้งสองชื่อมีความหมายเหมือนกัน  คือ  การบรรเลงกลอง ครั้งละหลายใบ  คำว่า  “แจ๊ส (Jass)  หมายถึง  ดนตรีแจ๊ส  ซึ่งใช้กลองชุดร่วมบรรเลง  จึงเรียกว่า  Jass Drum  และยังมีชื่อเรียกกลองชุดเป็นภาษาอังกฤษ ว่า Dance Drumming  หมายถึงกลองชุดใช้บรรเลงจังหวะเต้นรำ             กลองชุดประกอบด้วย กลองลักษณะต่างๆหลายใบ  และฉาบหลายอันมารวมกัน  โดยใช้ผู้บรรเลงเพียงคนเดียว  กลองชุดนี้ตามประวัติของดนตรีไม่ปรากฏว่าได้เข้าร่วมบรรเลงกับวงดนตรีดุริยางค์สากล ซึ่งเป็นวงดนตรีขนาดใหญ่  แต่ใช้บรรเลงร่วมกับวงดนตรีแจ๊ส และวงดนตรีที่มีเครื่องดนตรีน้อยชิ้นบรรเลงได้แก่  วงคอมโบ้ (Combo)  วงสตริงคอมโบ้ (String Combo)  ฯลฯ          ...

ขนมครก

รูปภาพ
ขนมครก   ขนมครก  เป็นขนมไทยโบราณชนิดหนึ่ง ทำจากแป้งน้ำตาลและกะทิ แล้วเทลงบนเตาหลุม เวลาจะรับประทานต้องแคะออกมา เป็นแผ่นวงกลม แล้วมักวางประกบกันตอนรับประทาน เป็นขนมของไทยที่มีมาตั้งแต่โบราณ นอกจากนี้ยังพบในพม่า ลาว และอินโดนีเซีย โดยชาวอินโดนีเซียเรียกว่าเซอราบี (serabi) มีหลักฐานว่าขนมครกเป็นที่นิยมแพร่หลายมาตั้งแต่สมัยอยุธยา มีการทำเตาขนมครกขายตั้งแต่ยุคนั้น ขนมครกแต่เดิมใช้ข้าวเจ้าแช่น้ำ โม่รวมกับหางกะทิ ข้าวสวย และมะพร้าวทึนทึกขูดฝอย ผสมเกลือเล็กน้อยใช้เป็นตัวขนม ส่วนหน้าของขนมครกเป็นหัวกะทิ ขนมครกชาววังจะมีการดัดแปลงหน้าขนมครกให้แปลกไปอีก เช่น หน้ากุ้ง (แบบเดียวกับข้าวเหนียวหน้ากุ้ง) หน้าไข่ หน้าหมู (แบบเดียวกับไส้ปั้นสิบ) หน้าเผือก หน้าข้าวโพด หน้าต้นหอม สูตรการทำขนมครก ส่วนผสม ส่วนที่ 1 ตัวขนมครก กะทิ 1 ถ้วย แป้งข้าวเจ้า 1 ถ้วย น้ำอุ่น 1 ถ้วย น้ำปูนใส 3 ช้อนโต๊ะ ข้าวสุก 1/4 ถ้วย กะทิ 1/4 ถ้วย (สำหรับใส่เครื่องปั่น) น้ำตาลทราย 4 ช้อนชา เกลือ 1/2 ช้อนชา ส่วนผสม ส่วนที่ 2 หน้าขนมครก กะทิ 1 ถ้วย น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย เกลือ 1 ช้อนชา แป้งข้าวเจ้...

ยางรถยนต์อัจฉริยะ เปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์เป็นอ็อกซิเจน

รูปภาพ
ยางล้อรถยนต์แบบใหม่ที่กู้ดเยียร์ (Goodyear)กำลังพัฒนานี้ เป็นยางล้อรถยนต์แห่งอนาคต มีลักษณะใสเเละมีสีเขียว เพราะภายในบรรจุมอสมีชีวิตเอาไว้จนเต็ม  เซบาสเตียน ฟอนเทน (Sebastien Fontaine) นักออกแบบทางอุตสาหกรรมอาวุโสแห่งบริษัทกู้ดเยียร์ กล่าวว่า ยางล้อรถยนต์ยุคใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมนี้ มีชื่อเรียกว่า “อ็อกซิจีน” (Oxygene) เหมาะแก่การใช้งานในเมืองใหญ่ที่มีประชากรสิบล้านคนขึ้นไป เพราะจะมีรถยนต์ใช้กันถึงสองล้านกว่าคัน มอสที่บรรจุอยู่ภายในยางล้อรถยนต์ช่วยดูดซับแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ CO2 ผ่านรูขนาดเล็กๆ หลายรูที่อยู่บริเวณขอบยาง เเล้วเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้กลายเป็นแก๊สอ็อกซิเจน ผ่านขั้นตอนการสังเคราะห์เเสงตามธรรมชาติ ซึ่งต้องใช้เเสงแดด เเละนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมตัวยาง “อ็อกซิจีน” จึงมีความใส นอกจากนี้ ลายหยักบนล้อยางจะช่วยให้ล้อดูดซับน้ำ ซึ่งจำเป็นสำหรับมอสเพื่อใช้ร่วมกับแสงแดดในการเปลี่ยนแก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ให้เป็นอ็อกซิเจน นอกเหนือจากจะช่วยลดมลพิษลงเเล้ว ยางล้อรถยนต์สีเขียว “อ็อกซิจีน” ยังผลิตกระเเสไฟฟ้าเองได้ด้วย จากพลังงานที่เกิดจากการสังเคราะห์เเสง ยางล้อรถ...